16.9.08
เสียงคำรามของพี่อ้อม
"วันนั้นเมื่อเราสังสรรค์กันที่โต๊ะอาหาร คุณสุนัยถามด้วยดวงตาสงสัยว่า คุณอ้อม ไหนบอกผมซิว่ามันทุกข์อะไรนักหนา เวลามีความทุกข์นั้นเกิดอาการอัศดงแล้วลนลานอยากขับไล่ไปให้ไกล แต่ตามตำราบอกว่ายิ่งต่อสู้ศัตรูยิ่งกล้าแข็ง และมันก็เป็นดังนั้นจริงๆ จึงต้องยอมจำนน ด้วยการทรุดตัวลงนั่งผูกสัมพันธ์กับอารมณ์ตัวเอง
นึกถึงคำสอนของท่านตรุงปะ ...จงปล่อยตัวเองให้จมอยู่กับห้วงอารมณ์ ค่อยๆผ่านมันไป สยบยอมต่อมัน แลสัมผัสลิ้มรสมันดังที่เป็น ณ บัดนี้คุณเริ่มต้นเป็นฝ่ายมุ่งเข้าไปหาอารมณ์ มากกว่าจะปักหลักให้อารมณ์โถมเข้าหาคุณ เมื่อนั้นก็จะก่อเกิดความสัมพันธ์ เกิดการจับคู่เริงรำ และแล้วพลังอันทรงศักดานุภาพก็จะกลายเป็นสิ่งที่ใช้การได้ยิ่งกว่าจะเป็นสิ่งที่ครอบงำ หากคุณไม่มีทีท่าต่อต้านทัดทาน เมื่อปราศจากการต่อต้าน ท่วงทำนองและจังหวะลีลาก็จะปรากฏขึ้นพร้อมกัน นี่เองคือสีหนาทบันลือ สิ่งใดก็ตามที่เกิดขึ้นในจิตอันเวียนว่าย ย่อมถือเป็นมรรควิธี
ประโยคนี้ชอบมากค่ะ ...ห้วงอารมณ์ของคุณหาได้เลวร้ายหรือบ้าคลั่งเป็นพิเศษ หากแต่เป็นการพวยพุ่งของพลัง แล้วก็พลิกตำราว่าด้วยพลัง การกระทำการร่วมกับพลังในแง่ของตันตระคือกระบวนการสลายคลายออกและปลดปล่อยให้เป็นอิสระ นี่เป็นประเด็นที่สำคัญยิ่ง เรากำลังพูดกันถึงเรื่องพลังในฐานะบางสิ่งบางอย่างที่แผ่ออกและเปิดกว้าง พลังกลายเป็นสิ่งที่ดำรงอยู่ทั่วทุกทิศทาง ปกคลุมอยู่ทุกหนทุกแห่ง ถ้าหากเราไปรวมศูนย์พลังไว้ในตน ก็เท่ากับหาเรื่องเดือดร้อนใส่ตัว เราจะพบว่าตนเองเป็นเหมือนดั่งลูกงูที่ฉุนเฉียวและชั่วร้ายแต่ทว่าก็ยังเล็กนักหรือเราจะพบว่าเราคล้ายดั่งลูกนกยูงตัวน้อยที่เต็มไปด้วยความสิเนหา ดังนั้นยิ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องจดจำไว้ว่า โดยนัยแห่งพุทธตันตระ ถือว่าพลังเป็นสิ่งที่เปิดกว้างและครอบคลุมทุกหนทุกแห่ง มันแผ่ขยายออกตลอดเวลา มันเป็นพลังที่ไม่รวมศูนย์ หากเต็มไปด้วยความหลากไหล เป็นดุจน้ำ เป็นดั่งห้วงสมุทรและอวกาศ เป็นดั่งแสงอาทิตย์และแสงจันทร์.
หากพบคุณสุนัยจะเล่าว่า ความทุกข์นั้นมันเหมือนหมอกที่แผ่ซ่านคลอบคลุมทุกอณูกายค่ะ มันขื่นขมด้วยนะคะและหัวใจนั้นก็สั่นระรัวแล้วเต้นแผ่ว กลิ่นของมันซ่านในจมูกยากจะบรรยายว่าเป็นเช่นไรและอ้อยอิ่งสถิตอยู่ในนั้น ...และอีกนา นา เมื่อเราทรุดตัวลงนั่งด้วยยอมจำนนทุกอย่างก็คลี่คลาย ช่างสุดแสนจริงๆ แล้วเราก็มีอาการ ฮึ!แล้วไง สลายลง แล้วไง ไม่เห็นจะเกิดปัญญาอะไรเลย ที่จริงแล้วความทุกข์ทำให้เราลดความอหังการ์และเกิดเมตตา ในมุมมองเรื่องพลังทำให้ลดความจี๊ตได้มากค่ะ ช่วงนี้ไม่จี๊ตเลยมีความเข้าใจ รัก และเมตตา
ทั้งอาทิตย์ที่ผ่านมา ฝึกทุกวันค่ะในเรื่องที่ครูตั้มสอน เพื่อว่าจะได้ชำนาญคล่องแคล่วในการนำมาใช้ แต่จะถูกต้องหรือไม่ก็ไม่ทราบค่ะ ฮ่า! ปลอบใจตัวเองว่าไม่มีอะไรถูกหรือผิด ตอนนี้ เปิด เปิด เปิด ผ่อนคลาย เริ่มเป็นมนต์ประจำตัวค่ะ"
อ้อม (ยังเหมียว เหมี๊ยว เหมียว หง่าว เปล่าคำรามก้องทั่วสารทิศ)
(จาก "ภาวนาคือชีวิต: เปิดมณฑลแห่งการตื่นรู้สู่การดำรงอยู่อย่างเต็มเปี่ยม")