วันนี้ได้มีโอกาสคุยโทรศัพท์กับพี่ฎ้ำ อัญชลี คุรุธัช
พี่สาวใจดีที่ปัจจุบันทำงานเป็นประธานให้กับ Buddhist Peace Fellowship
พี่ฎ้ำนั้นใช้ชีวิตวัยสาวในการทำงานเพื่อผู้ลี้ภัยตามชายแดน
ไม่ว่าจะเป็นในประเทศไทย ประเทศเพื่อนบ้าน หรือในตะวันตก
ผมรู้จักพี่ฎ้ำเพราะช่วงหนึ่งผมเคยมีความคิดจะไปเรียนต่อปริญญาเอก
ในโปรแกรม Social and Cultural Studies in Education (SCS)
ที่ UC Berkeley (ก่อนที่จะมาเสียแผน เสียคนเพราะเร้จจี้)
พี่เขาเรียนอยู่ในโปรแกรมนั้นพอดี กำลังอยู่ในช่วงสุดท้ายของการเขียน thesis
ได้คุยกันครั้งนี้ ทำให้ทราบถึงความกล้าหาญของพี่ฎ้ำ
ที่ตัดสินใจทิ้งปริญญาเอกที่ใกล้จะสำเร็จอยู่มะรอมมะร่อ
ด้วยเหตุผลง่ายๆว่า
"มันไม่ใช่ตัวพี่ กับงานต่างๆเพื่อสังคมที่พี่ทำอยู่
ถ้าต้องหยุดทุกอย่างเพื่อไปนั่งเขียนงานวิจัยชิ้นนึง พี่คงทำไม่ได้
แม้จะมาตระหนักเอาเมื่อสาย ก็ยังดีว่าต้องทิ้งงานที่เรารัก
ไปทำสิ่งที่ไม่ใช่ตัวเราเพื่อเอาปริญญา พี่ว่ามันไม่คุ้มกัน"
หลายครั้งที่ผมเองเคยคิดจะอยากไปต่อปริญญาเอก
เนื่องจากความคิดที่ว่า
มันอาจจะมีประโยชน์ในฐานะ "ไม้กันหมา" ในภายหน้า
ตอนนี้ผมไม่รู้สึกว่าผมต้องการไม้ที่ว่านั้นอีกแล้ว
จะว่า มันเป็นความรู้สึกเดียวกับพี่ฎ้ำ ก็คงไม่ผิดนัก...
คุณค่าของคนค้นพบได้ภายใน
หากพบแล้วก็จงเดินตามเสียงแห่งคุณค่าที่ว่านั้น
อย่าได้ไปไหวหวั่นกับการไขว่คว้าหาป้ายราคา
ยอมให้คนอื่นมาตีค่าด้วยปริญญาเพียงใบเดียว
...