เมื่อเราก้าวเดินบนเส้นทางแห่งการฝึกตน เราอาจจะเริ่มต้นด้วยศรัทธาและแรงดลใจที่เข้มข้น เลือกที่จะฝึกสมาธิเข้าปฏิบัติกรรมฐานอย่างเสพติด ฟิตจนกลายเป็นภาพของคนใหม่ที่เพื่อนจำไม่ได้ ทว่าถึงจุดหนึ่งสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่านั้น กลับเป็นรากฐาน "วินัยในเนื้อในตัว" อันได้แก่สัญชาตญาณในร่างกายที่เราสามารถรู้สึกได้ทันทียามที่ดำเนินชีวิตอยู่บนภาวะความไม่ปกติของกายและจิต การสร้างวินัยในเนื้อในตัว เป็นกระบวนการที่ไม่สามารถเกิดขึ้นได้จากการภาวนาแบบลาพักร้อน แต่จะเกิดขึ้นได้จากการฝึกฝนการตื่นรู้ในเนื้อในตัวอย่างอ่อนโยนสม่ำเสมอ ทั้งในสนามจำลองกับตนเอง และสนามจริงกับชีวิตและความสัมพันธ์ต่อผู้อื่น เชื่อมโยงกันจนเป็นเนื้อเดียว จนการภาวนาได้กลายเป็นพื้นฐานความพร้อม "ประสานจิตกับกาย" ในทุกๆขณะของเส้นทางชีวิต
นี่คือวิถีแห่งนักรบ ปัจเจกบุคคลผู้เห็นคุณค่าของการฝึกฝนตนเอง การภาวนาที่แท้ คือการเตรียมฐานแห่งความเป็นปกติให้กับทุกสิ่งทุกอย่างที่จะเกิดขึ้นในชีวิต แน่นอนว่ายามที่เราเผชิญกับสถานการณ์จริงที่ไม่คาดคิด หลายสิ่งหลายอย่างคงเป็นเรื่องที่ยากจะยอมรับได้ในทันที ไม่ว่าคุณจะฝึกภาวนามานานแค่ไหน ไม่ว่าคุณจะได้ร่ำเรียนมาจากธรรมาจารย์ผู้เก่งกาจท่านใด คุณก็ไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงที่จะเผชิญกับธรรมชาติพื้นฐาน ของ "ความผิดหวัง" "การพลัดพราก" "การสูญเสีย" "ความเจ็บไข้" หรือ "ความตาย" สัจธรรมพื้นฐานเหล่านี้จะเข้าแทรกผ่านในจุดที่เราเปราะบางที่สุด และเมื่อนั้น ณ จุดที่หมิ่นเหม่ที่สุดของชีวิต ก็จะเป็นสถานการณ์ที่วัดกันว่า ภาวะปกติของการตื่นตระหนักรู้ในเนื้อในตัวของเราสามารถที่จะดำรงอยู่ได้มากน้อยเพียงไร ความเจ็บปวดแสนสาหัส ความท้อแท้สิ้นหวัง อาจดูเป็นสิ่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ยิ่งในเส้นทางฆราวาสที่รายรอบไปด้วยครอบครัว พี่น้อง คนรัก และเพื่อน ด้วยแล้ว ทว่าคำถามก็ยังคงปรากฏชัดอยู่ นั่นคือ เราจะสามารถเผชิญกับความทุกข์ที่ปรากฏขึ้นตรงหน้าได้อย่างไร เราสามารถที่จะเรียนรู้ที่จะอยู่กับมัน และเติบโตอย่างกล้าแกร่งไปพร้อมกับมันได้อย่างไร
ในการฝึกฝนตนเองของนักรบ หากปราศจากซึ่งความทุกข์เสียแล้ว การเดินทางครั้งนี้คงไม่มีนัยสำคัญอะไรให้เรียนรู้มากนัก ยิ่งในชั่วขณะที่เราเข้าไปอยู่ในไฟแห่งความทุกข์ เราต่างก็สัมผัสได้ถึงความเผาร้อน ที่แทบจะไม่สามารถทนอยู่ต่อไปได้อีกแม้วินาทีเดียว ใช่...เราทุกข์ ใช่..เราเจ็บ มันน่าอาย น่าขายขี้หน้ามากนักหรืออย่างไรกัน เพียงแค่เราได้ชื่อว่าเป็นผู้ปฏิบัติธรรมแค่นั้นหรือ...หากคุณทราบแล้วว่าชีวิตมันเต็มไปด้วยเรื่องเจ็บปวด เรื่องเสียดแทงเช่นนี้ ถ้าวันข้างหน้าคุณเลือกได้ คุณจะหาทางกระเสือกกระสนออกมา แล้วหาทางเบี่ยง เดินเลี่ยงไม่เฉียดเข้าไปใกล้ไฟแห่งทุกข์อีกเลย หรือคุณยังจะยืนยันที่จะเผชิญกับอุปสรรคที่ยากลำบากต่อไป ในทุกแง่มุมของชีวิต อย่างที่ไม่รู้ว่าบทต่อไปจะเป็นอะไร ด้วยการฝึกฝนตนเอง เตรียมความพร้อมในเนื้อในตัวให้กล้าแกร่ง
ผมหวังว่า หนทางหลังจะเป็นหนทางที่พวกเราเลือก หนทางแห่งนักรบทางจิตวิญญาณ ผู้ที่กล้าหาญที่จะเข้าไปเผชิญและเรียนรู้ ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเพื่อนมนุษย์อย่างอ่อนน้อม ไม่ว่านรกจะมีสักกี่ขุม เราพร้อมที่จะลงไปสัมผัสด้วยจิตใจที่เยือกเย็นท่ามกลางการแผดเผาร้อนแรง เพื่อวันหนึ่งประสบการณ์แห่งการดำรงอยู่ในทุกภาวะ จะได้ถูกหลอมรวมอยู่ในเนื้อในตัวของเรา และเป็นประโยชน์กับผู้อื่นที่อาจตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ต่างกับเรา...ไม่มากก็น้อย
ในสายธรรมอันเชี่ยวกราด
วิจักขณ์
บ้านดอกแก้ว, เชียงราย
๒๒ เมษายน ๕๑
__________________________
- ข่าวฝากประชาสัมพันธ์ -
๑. ๔ พฤษภาคม ที่จะถึงนี้ ขอเชิญร่วม "ชุมนุมเหล่าโยคี บนเส้นทางแห่งการฝึกตน" สำหรับเพื่อนๆที่เคยเจอกันในทุกโอกาส จะพาเพื่อน พาแฟน พาญาติพี่น้อง มาก็ขอเชิญ ด้วยความเข้าใจตรงกันที่ว่า "แค่มาภาวนากัน" ไม่คาดหวัง ไม่กดดัน สบายๆ ขำๆ ที่เรือนร้อยฉนำ สวนเงินมีมา แปดโมงครึ่งถึงห้าโมงเย็น ผู้สนใจแจ้งยืนยันการเข้าร่วมได้ที่ shambhala04@gmail.com จ่าหัวอีเมล์ชัดๆว่า "สี่พฤษภา"
๒. ยังมีที่ว่างอีก ๕ ที่ สำหรับ "สัมผัสแห่งการตื่นรู้" ที่สวนโมกข์นานาชาติ สนใจขอรับใบสมัครได้ที่ shambhala04@gmail.com
๓. บนเส้นทางแห่งการฝึกตน ซีรี่ส์สอง "โลกอันศักดิ์สิทธิ์ของนักรบ"
ช่วงแรก (ฝึกอบรม) ๔ วัน เช้าจดเย็น: ๒๔-๒๕ พฤษาคม และ ๖-๗ มิถุนายน: เวลา ๘.๓๐ ถึง ๑๗.๓๐ น. ที่เรือนร้อยฉนำ สวนเงินมีมา คลองสาน กรุงเทพ
ช่วงที่สอง (ฝึกเข้ม) ๔ วัน ๔ คืน: ๓- ๖ กรกฎาคม
ในบรรยากาศแมกไม้ร่มรื่น ที่รร.หมู่บ้านเด็ก จ.กาญจนบุรี
สำหรับเพื่อนๆที่เคยผ่านการฝึกอบรมที่กรุงเทพมาแล้ว น่าจะได้มีโอกาสมาฝึกที่หมู่บ้านเด็กกันดูบ้าง พื้นที่ที่สร้างขึ้นจากการกินอยู่ร่วมกัน ๔ วัน ภาวนาทั้งช่วงกลางวันและกลางคืน รักษาความต่อเนื่องของมณฑลการตื่นรู้ที่เราสร้างขึ้น และความใกล้ชิดสนิทสนมกันอย่างเป็นกันเองแบบเพื่อน เป็นประสบการณ์การฝึกที่แตกต่างจากการฝึกอบรมขั้นต้นที่กรุงเทพ
สอบถามรายละเอียด หรือสำรองเข้าร่วมอบรมได้ที่
เสมสิกขาลัย สำนักงานรามคำแหง
ฐิติรัตน์ จันทร์เนียม หรือ เจนจิรา โลชา
02-314 7385- 6
semsikkha_ram@yahoo.com
๔. อ่านบทสัมภาษณ์นายวิจักขณ์ พานิช ล่าสุดได้ที่นิตยสาร she's smart ฉบับเดือนเมษายน และนิตยสาร GM ฉบับล่าสุดปกแดงโคคาโคล่า
