23.5.05

ผู้ปฏิบัติธรรมในที่อโคจร

คิดแล้วก็ตลกดี เพราะยิ่งก้าวหน้าในธรรมมากเท่าไร ปฏิบัติอย่างเข้มข้นหนักหน่วงมากเท่าไหร่ ผมก็ดูจะมีแนวคิดอะไรประหลาดๆมากขึ้นเท่านั้น มันเกิดขึ้นโดยธรรมชาติ ไม่ได้ทำตามใคร หรือ พยายามเป็นเหมือนใคร ไม่ได้อยากจะสร้างภาพความเป็นคนดี สงบเสงี่ยม ธรรมะธัมโม ผมก็แค่อยากจะสามารถเรียนรู้จากผู้คน และสื่อสารในสิ่งที่ผมค้นพบกับเขาได้ แต่ผมก็รู้ดีว่า วันหนึ่งผมต้องการพื้นที่ ในการให้ผู้คนได้เข้ามาเรียนรู้ในระดับที่ลึกขึ้น แต่ในตอนนี้ผมรู้สึกเพียงแค่ว่า ผมพร้อมจะเป็นเพื่อนกับทุกคน ให้ทุกคนเห็นว่าแท้จริงแล้ว การปฏิบัติธรรม การเข้าใจธรรม เกิดขึ้นได้กับคนทุกคนจริงๆ

วันนี้ไปดูละครถาปัดเป็นครั้งแรกในชีวิต จริงๆก็ไม่ได้คิดจะไปดูอะไร แต่มีเพื่อนคนนึงเลิกกะแฟน ก็เลยมีบัตรเหลือเลยมาชวนผมไปดู คนไปดูแน่นมาก ส่วนละครก็สนุกดี ขำไปเรื่อย บางทีก็ต้องพยายามขำนิดหน่อย ดูละครเสร็จ ก็กินข้าว แล้วก็เลยขอให้เพื่อนพาไปดูที่เที่ยวกลางคืนสมัยนี้ อยากดูว่าโลกมันเปลี่ยนไปขนาดไหนแล้ว จำได้ว่าไปเที่ยวแบบนี้ครั้งสุดท้ายก็ตอนอยู่ปีสองโน่น เป้าหมายอยู่ที่ซอยทองหล่อ ที่เขาว่ากันว่าเดี๋ยวนี้กลายเป็นสวรรค์นักเที่ยวแห่งใหม่ ที่ไปคราวนี้คือ ผับชื่อ Escudo

รู้สึกตื่นตาตื่นใจที่ได้เห็นคนเยอะแยะในผับ เพลงดัง ควันบุหรี่คลุ้ง คนเต้น เบียดเสียด ทุกสายตาจ้องมองกันบ่งบอกถึงนัยที่เป็นที่รู้กัน ไม่ได้รู้สึกรังเกียจอะไรเลย รู้สึกแต่เพียงว่า กว่าเราจะสามารถกลับมาสู่สภาวะแบบนี้ได้ จิตเราคงต้องอาศัยการฝึกฝน และแข็งแกร่ง ก่อนที่เราจะengage กับสถานที่อโคจรเช่นนี้ ความก้าวหน้าของการปฏิบัติก็ควรจะชัดแจ้งต่อใจเรา เป็นการฝึกความจริงใจต่อตนเองอย่างเต็มที่ในทุกสถานการณ์ เมื่อวันนั้นมาถึงผมคงสามารถจะห่วงใยเพื่อนมนุษย์ทุกคนอย่างไม่จำเป็นต้องไปตัดสินว่าเขาดีหรือเลว โง่หรือฉลาด เพราะคนที่หลงอยู่ในความมัวเมาเหล่านั้น ต่างก็มีความสับสน ค้นหาลึกๆ ผมรู้อย่างเดียวว่าผมอยากช่วยเขา ด้วยการเรียนรู้โลกของเขา อยากเห็นเขาสามารถมองอะไรได้ชัดเจน และตัดสินใจเลือกเส้นทางชีวิตตามเสียงด้านใน และการตั้งคำถามต่อเสียงภายนอกที่กรอกหูเขาอยู่ตลอดเวลา

ผมเชื่อเหลือเกินว่ามีโพธิสัตว์มากมายที่ใช้ชีวิตเกลือกกลั้วกับทะเลแห่งความทุกข์ เพื่อช่วยเหลือเรียนรู้สรรพสัตว์ ก็เมื่อเป้าหมายคือกระบวนการ การฝึกฝนภายในก็เพื่ออุทิศในการทำประโยชน์เพื่อผู้อื่นมิใช่หรือ...เราจึงไม่จำเป็นต้องกังวลว่าภาพลักษณ์ของเราจะดีหรือไม่อย่างไร เมื่อเรารู้ตนเป็นอย่างดี ว่าช่วงเวลา ณ ขณะนี้เราทำสิ่งใดอยู่ และหากลองแล้วเรายังไม่พร้อม ก็ต้องรู้ตัว เพราะก่อนที่จะสามารถ engage กับโลกแห่งความทุกข์ได้ เราต้องสามารถแยกตัวเองออกมาจากมันให้ได้เสียก่อน เพื่อจะได้มองเห็นและเข้าใจมันได้อย่างชัดเจนเป็นขั้นแรก