การภาวนาอาจไม่ได้ช่วยทำให้อะไรที่เป็นอยู่มันดีขึ้น แต่ที่แน่ๆสภาวะจิตที่ไม่ปกติเปรียบได้กับพายุที่สามารถจะพัดพาให้สถานการณ์เลวร้ายหนักลงไปอีกโดยที่เราไม่รู้ตัว ดังนั้นเวลาที่คุณรู้สึกเผารน ทนไม่ไหวกับชีวิตอีกต่อไป ไร้ซึ่งกำลังใจแม้แต่จะฝึกฝนต่อ ขอให้จำไว้ว่า "ภาวนา คือ ชีวิต " กับคำของลี(ภรรยาของเร้จจี้) ที่ว่า "ภาวนาก็รู้สึกแย่ ไม่ภาวนาก็แย่ อย่างนั้นขอภาวนาดีกว่า" การภาวนาเป็นหนทางแห่งการเปิด"พื้นที่" ที่จะยอมให้ทุกความรู้สึก ทุกอารมณ์ ทุกทุกข์ ทุกสุข มีพื้นที่สำหรับแสดงธรรมชาติที่แท้จริงของมัน เราไม่ขัดขืน ไม่ต่อต้าน ไม่สยบยอม ไม่สวน หมกมุ่น หรือโต้ตอบ แต่เราใช้พื้นที่ของใจที่เปิดกว้าง เป็นโอกาสที่จะได้รู้จักธรรมชาติอันหนึ่งในเนื้อในตัวเราอย่างที่มันเป็น
ในการภาวนา เราฝึกฝนพัฒนาจิตให้ดำรงอยู่ในธรรมชาติเดิมแท้ ที่เปี่ยมไปด้วยศักยภาพแห่งการรู้ ตื่น และเบิกบาน เปรียบได้กับแสงเรืองรองแห่งอรุณรุ่งยามเช้าที่จะฉายสะท้อนในทุกภาวะการดำรงอยู่อย่างไม่มีเงื่อนไข ด้วยความไว้วางใจในทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในมณฑลแห่งการรับรู้ เราจึงสามารถเข้าใจสิ่งต่างๆตามที่เป็นจริง โดยปราศจากการยัดเยียดเอาอคติ ความกลัว ความคาดหวังใดๆ ไปให้กับสภาวการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้า
จดหมายข่าวฉบับนี้ล่าช้าออกไป เพราะการถือกำเนิดของน้องเยเช ลูกสาวคนแรกของผม ในช่วงเวลาเกือบหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา เยเชได้สอนให้ผมเข้าใจถึงมณฑลแห่งการตื่นรู้ อันเป็นศักยภาพและความดีงามพื้นฐานที่ติดตัวมากับคนทุกคนตั้งแต่แรกกำเนิด สำหรับผมแล้วคำถามที่ว่า "จะสอน จะเลี้ยงเจ้าตัวน้อยอย่างไร" ดูจะมีความสำคัญน้อยกว่า "จะดูแลรักษาพื้นที่ของใจของเราอย่างไร" เพราะผมเชื่อว่าหากเราสามารถดูแลรักษา"พื้นที่ของใจ"ให้เป็นปกติได้แล้ว ทุกชีวิตที่วิ่งเล่นอยู่ในพื้นที่แห่งนั้น น่าจะสามารถเติบโต งอกงาม และเบิกบาน ตามธรรมชาติและความงดงามที่ติดตัวเขามาตั้งแต่แรกกำเนิด โดยที่เราไม่จำเป็นจะต้องคาดหวังหรือพยายามให้เขาเป็นอะไรเลยแม้แต่น้อย
ขอต้อนรับเยเช สู่โลกอันศักดิ์สิทธิ์ที่เปี่ยมไปด้วยเรื่องราวชีวิตที่รุ่มรวย
บนวิถีแห่งโยคีผู้ครองเรือน
วิจักขณ์
1.8.08
30.7.08
โยคีพ่อลูกอ่อน
23.7.08
ชุมนุมโยคี (๒)

๓๐ สิงหานี้
ชุมนุมโยคี
กันอีกสักครั้ง
...
๘.๓๐ ถึง ๑๗.๓๐ น.
ณ เรือนร้อยฉนำ สวนเงินมีมา
"แค่มาภาวนากัน"
ถ้าจะมาก็สำรองที่ล่วงหน้ากันนิดนึง
ส่งอีเมล์มาที่ shambhala04@gmail.com
ช่วยระบุที่หัวอีเมล์ว่า “สามสิบสิงหา”
ค่าผ่านประตู: ช่วยลงขันกันคนละนิดละหน่อยตามกำลังก็แล้วกัน
จำนวน: ไม่เกินสี่สิบสี่
อุปกรณ์ที่ต้องเตรียมมา:
๑. สายรัดเข่า, เข็มขัด, หรือ ผ้าขาวม้า
๒. อาหาร/ ของว่าง/ ของแจก สำหรับแบ่งปันเพื่อนๆโยคี
๓. เบาะรองก้นที่คุณนั่งถนัดถนี่ (ถ้ามี)
๔. (กับ) เนื้อกับตัว
สิ่งที่ไม่ควรเอามา: รถยนต์
เรือนร้อยฉนำ สวนเงินมีมา: เลขที่ ๖๖๖ ถ.เจริญนคร เป็นตรอกห้องแถว
อยู่ระหว่างซ.เจริญนคร ๒๑ กับ ๒๒ ฝั่งตรงข้ามมีปั๊มเชลล์ ข้างๆมีอู่ซ่อมรถ
แผนที่ตามลิงค์ข้างล่าง
http://www.semsikkha.org/semmain/images/map/roychanum.jpg
once

'once' is truly one of the best musical movies i've seen in years (second to 'hedwig and the angry inch'), very fresh, surprising, and inspirational. thanks N'Mai for introducing this movie to me. the movie got the Oscar for the best original song, "falling slowly." the speech by Marketa Irglova below is deeply touching...
Glen Hansard: “Thanks! This is amazing. What are we doing here? This is mad. We made this film two years ago. We shot on two Handycams. It took us three weeks to make. We made it for a hundred grand. We never thought we would come into a room like this and be in front of you people. It’s been an amazing thing. Thanks for taking this film seriously, all of you. It means a lot to us. Thanks to the Academy, thanks to all the people who’ve helped us, they know who they are, we don’t need to say them. This is amazing. Make art. Make art. Thanks.”
Marketa Irglova: “Hi everyone. I just want to thank you so much. This is such a big deal, not only for us, but for all other independent musicians and artists that spend most of their time struggling, and this, the fact that we’re standing here tonight, the fact that we’re able to hold this, it’s just to prove no matter how far out your dreams are, it’s possible. And, you know, fair play to those who dare to dream and don’t give up. And this song was written from a perspective of hope, and hope at the end of the day connects us all, no matter how different we are. And so thank you so much, who helped us along the way. Thank you.”
22.7.08
เลิกชาตินิยม

"การข้ามประวัติศาสตร์ชาตินิยมได้ ต้องปลูกฝังจิตสำนึกของเราให้รักความเป็นมนุษย์นิยม มากกว่าชาตินิยม ชาติเป็นของปลอม ภาษาเดียวกัน ชาติเดียวกันเหล่านั้นเป็นของปลอม ไม่ใช่ของจริง แต่มนุษย์นั้นเป็นของจริง มนุษย์ทั้งหมดไม่ว่าชาติไหน ภาษาไหน ศาสนาไหน เป็นเพื่อนร่วมทุกข์ด้วยกันทั้งนั้น!"
ส.ศิวรักษ์
อ่าน "ก้าวข้ามประวัติศาสตร์ชาตินิยม สู่การสร้างทัศนคติและความเข้าใจอันดีต่อประเทศพม่า"
18.7.08
12.7.08
คอร์สท้องถิ่น

“จิตวิญญาณแห่งนักรบ”
วิถีแห่งความสงบเย็นท่ามกลางไฟแผดเผาร้อนแรง
๒๕ - ๓๐ กันยายน ๒๕๕๑
ณ ศูนย์วิจัยพืชสวน อ.เมือง จ.เชียงราย
“จิตวิญญาณแห่งนักรบ” เป็นการฝึกอบรมภาวนาตามแนวทางคำสอนของชัมบาลา หัวใจคือการสร้างรากฐาน "วินัยในเนื้อในตัว" อันได้แก่สัญชาตญาณในร่างกายที่เราสามารถรู้สึกได้ทันทียามที่ดำเนินชีวิตอยู่บนภาวะความไม่ปกติของกายและจิต
ในวิถีชัมบาลา ผู้ฝึกฝนทางจิตวิญญาณเปรียบได้กับนักรบ ปัจเจกบุคคลผู้เห็นคุณค่าของการฝึกฝนตนเอง ออกเดินทางบนเส้นทางแห่งการฝึกตนอันปราศจากจุดหมาย กล้าหาญที่จะเข้าไปเผชิญและเรียนรู้ ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเพื่อนมนุษย์อย่างอ่อนน้อม ไม่ว่านรกจะมีสักกี่ขุม เราพร้อมที่จะลงไปสัมผัสด้วยจิตใจที่เยือกเย็นท่ามกลางการแผดเผาร้อนแรง เพื่อวันหนึ่งประสบการณ์แห่งการดำรงอยู่ในทุกภาวะ จะได้ถูกหลอมรวมอยู่ในเนื้อในตัวของเรา และเป็นประโยชน์กับผู้อื่นที่อาจตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ต่างกับเรา...ไม่มากก็น้อย
<รายละเอียดเพิ่มเติม>>>
ติดต่อขอรับใบรับสมัครได้ที่
shambhala04@gmail.com
หรือ สอบถามรายละเอียดที่
เจนจิรา โลชา ๐๘๙- ๖๖๒ ๐๐๘๘
หมายเหตุ
ถึงเพื่อนๆผู้ร่วมทางทุกท่าน
เนื่องด้วยความขัดข้องเรื่องสถานที่ ทำให้คอร์ส"สัมผัสแห่งการตื่นรู้" ที่สวนโมกข์นานาชาติ ต้องเลื่อนไปอีกหนึ่งเดือนครับ
"สัมผัสแห่งการตื่นรู้"
กระบวนทัศน์ใหม่ในวิถีการภาวนา
๑๑ - ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๑
ณ สวนโมกข์นานาชาติ อ.ไชยา จ.สุราษฏร์ธานี
สนใจติดต่อ: shambhala04@gmail.com
หรือ นภา ๐๘๙ ๑๖๐ ๓๕๘๘
เนื่องด้วยความขัดข้องเรื่องสถานที่ ทำให้คอร์ส"สัมผัสแห่งการตื่นรู้" ที่สวนโมกข์นานาชาติ ต้องเลื่อนไปอีกหนึ่งเดือนครับ
"สัมผัสแห่งการตื่นรู้"
กระบวนทัศน์ใหม่ในวิถีการภาวนา
๑๑ - ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๑
ณ สวนโมกข์นานาชาติ อ.ไชยา จ.สุราษฏร์ธานี
สนใจติดต่อ: shambhala04@gmail.com
หรือ นภา ๐๘๙ ๑๖๐ ๓๕๘๘
2.7.08
pain

In meditation, we need to be extraordinarily direct with our pain. The mind’s tendency to shy away and its excuses are myriad, maybe infinite. If we think we are being direct, there is always another layer of avoidance to remove. We need to realize that we are in pain, then to look at it, and then again to give into it and inhabit it. And finally, we need to get to get to the point where there is nothing but that pain, not even “us” going through it. But then, of course, it is no longer recognizable as “pain”, or as anything else either.
Reggie Ray
30.6.08
walking the path

"The tree is just magnificent. It stands alone, spreading its branches so elegantly. And the pink flowers are just breathtakingly beautiful. Despite the unfriendly environment, the tabebuia remains honest to the season. It grows and blooms courageously."
"The undeniable truth expresses itself in such an ordinary way. When we give ourselves time to contemplate on the manifestation of these natural truths, we are empowered and feel energised," said Rosana.
When the season's gone, Rosana has pictures of tabebuia to look at and to remind her that she must continue her uphill tasks, like Sisyphus.
"It's our duty to do the right thing, to persevere and persevere, to create positive karma, and the rest will be taken care of," she said.
"My spiritual teacher once told me that a Buddhist should grab any opportunity to do the right thing and to get things right, albeit small deeds. It doesn't matter if you succeed or fail. After all, Buddhism is the path and the goal in itself."
read all >>>
from "Walking the path"
Outlook , Bangkok Post,
Sunday June 29, 2008
Subscribe to:
Posts (Atom)