2.11.09

จดหมายข่าววัชรปัญญาประจำเดือนตุลาคม ๒๕๕๒

Six Illusions
As Metaphors of Impermanence


Look there at all the objects appearing outside,
Fleeting visions, like last night’s dream.
When you recall they’re dream-like, these delusions make your mind uneasy.
Have you cut delusion at the root, Rechungpa?
When I reflect on this, sublime Dharma comes to mind.

When looking inward at your body,
Transitory like a city of ghandharvas,
Its rising and falling make your mind uneasy.
Have you cut through [the fear of] birth and death, Rechungpa?
When I reflect on this, sublime Dharma comes to mind.

When looking inward at the perceiving mind,
Fugitive like a bird in the crest of a tree,
So restless its makes your mind uneasy.
Have you taken a hold of mind’s secure ground, Rechungpa?
When I reflect on this, sublime Dharma comes to mind.

When looking inward at the breath moving inside,
It’s impermanent like mist in the air.
The fading and passing of mist makes your mind uneasy.
Have you seen movement vanish on its own, Rechungpa?
When I reflect on this, sublime Dharma comes to mind.

When looking at these friends assembled here,
They’re transient like crowds at a fair.
Once gathered, they’re sure to part, making your mind uneasy.
Have you set relations on a higher level, Rechungpa?
When I reflect on this, sublime Dharma comes to mind.

When looking at the wealth collected here,
Evanescent like honey of the bees,
Someone else enjoying your things make your mind uneasy.
Have you opened the treasure of mind itself, Rechungpa?
When I reflect on this, the sublime Dharma comes to mind.


มายาแห่งความไม่เที่ยงทั้งหก

มองออกไป ยังวัตถุที่ปรากฏอยู่ภายนอก
ภาพซึ่งพริบตาเดียวก็หายวับไป ราวกับภาพฝันในคืนก่อน
เมื่อใดที่เธอระลึกได้ ช่างทำให้ใจอึดอัดสับสน
เธอได้ตัดภาพลวงตาที่รากของมันแล้วหรือยัง เรชุงปะ
เมื่อฉันได้สะท้อนถึงสิ่งนี้ ธรรมะอันลึกซึ้งเอ่อล้นขึ้นในใจ

เมื่อใดที่มองเข้าไปในร่างกายที่ยาววาหนาคืบ
ปราศจากความยั่งยืนถาวร เหมือนนครแห่งคนธรรพ์
มีขึ้นมีลง ทำให้ใจอึดอัดสับสน
เธอได้ตัดผ่านความกลัวแห่งการเกิดและการตายแล้วหรือยัง เรชุงปะ
เมื่อฉันได้สะท้อนถึงสิ่งนี้ ธรรมะอันลึกซึ้งเอ่อล้นขึ้นในใจ

เมื่อใดที่มองเข้าไปในจิตรับรู้
ไร้หลักเหมือนนกบนยอดต้นไม้
ไม่เคยมีเวลาได้หยุดพัก ทำให้ใจอึดอัดสับสน
เธอได้สร้างพื้นที่อันปลอดภัยในจิตบ้างแล้วหรือยัง เรชุงปะ
เมื่อฉันได้สะท้อนถึงสิ่งนี้ ธรรมะอันลึกซึ้งเอ่อล้นขึ้นในใจ

เมื่อใดที่มองเข้าไปในลมหายใจที่เคลื่อนไหวอยู่ภายใน
ผันแปรเปลี่ยนไป ราวกับไอหมอกในอากาศ
การเลือนหายไปของมัน ทำให้ใจอึดอัดสับสน
เธอได้เห็นการเคลื่อนไหวจางคลายไปด้วยตัวของมันเองแล้วหรือยัง เรชุงปะ
เมื่อฉันได้สะท้อนถึงสิ่งนี้ ธรรมะอันลึกซึ้งเอ่อล้นขึ้นในใจ

เมื่อใดที่มองไปยังหมู่เพื่อนที่รวมตัวกันอยู่ที่นี่
ประเดี๋ยวประด๋าว ราวกับฝูงชนในตลาดนัด
ครั้นมาเจอกัน ก็ต้องจากกันไป ทำให้ใจอึดอัดสับสน
เธอได้ตั้งความสัมพันธ์ไว้ในความหมายที่สูงพอแล้วหรือยัง เรชุงปะ
เมื่อฉันได้สะท้อนถึงสิ่งนี้ ธรรมะอันลึกซึ้งเอ่อล้นขึ้นในใจ

เมื่อใดที่มองไปที่ความมั่งคั่ง อันได้ถูกสะสมไว้ที่นี่
จางใสแทบมองไม่เห็นเหมือนน้ำผึ้ง
ใครจะมามีสุขกับสิ่งของของเธอ ทำให้ใจอึดอัดสับสน
ทว่าเธอได้เปิดขุมทรัพย์ล้ำค่าแห่งใจตนแล้วหรือยัง เรชุงปะ
เมื่อฉันได้สะท้อนถึงสิ่งนี้ ธรรมะอันลึกซึ้งเอ่อล้นขึ้นในใจ...

มิลาเรปะ
แปลโดย วิจักขณ์ พานิช