30.1.07

hello crestone



after thinking about this for a while, i'm finally moving out of Boulder and plan to spend the rest of my time in the US in Crestone. I will be housesitting for my friend, Terry, for two weeks before moving to my own cabin.



a few days i spent in Crestone over the past week were very nurturing. whenever i look at ritro gonpo, i know this is exactly where i need to be.

...i am home.

ดอกไม้แห่งโพธิ



งานเขียนรับเชิญจากพี่น้อย ชลลดา ทองทวี เกี่ยวกับประสบการณ์การเข้าภาวนากับภิกษุณี เท็นซิน พัลโม ขอขอบคุณพี่น้อยอีกครั้งครับ

"จิตเดิมแท้ของมนุษย์นั้น บริสุทธิ์ เป็นสภาวะโพธิจิตที่มีอยู่ในมนุษย์ทุกคน รวมทั้งสรรพชีวิตด้วย เปรียบเสมือนท้องฟ้าที่ใสสะอาดไร้ขอบเขต แต่เมฆหมอกแห่งความคิดของเรานั้นหนาทึบมาก ทำให้เรามองไม่เห็นว่ามีท้องฟ้าอยู่ ถ้าเรามองทะลุเมฆหมอกเหล่านี้ได้ เราจะเห็นท้องฟ้าใสอยู่เบื้องหลังได้ไม่ยาก และจะได้รู้ว่าที่จริง เมฆหมอกแห่งความคิด นั้นเป็นแค่เมฆก้อนหนึ่ง ในความจริงแท้ทั้งหมดที่อยู่เบื้องหลัง คือ ท้องฟ้าอันใสกระจ่างนั้น"

<อ่านต่อทั้งหมด>

จิตตปัญญาศึกษา..การเรียนรู้แบบเอาชีวิตเข้าแลก!



โดย ณัฐฬส วังวิญญู
เครือข่ายจิตตปัญญาศึกษา
ContemplativeEducation@yahoo.com
คอลัมน์ ณ พรมแดนแห่งความรู้
โพสต์ทูเดย์ ฉบับวันที่ ๒๘ มกราคม ๒๕๕๐

"ความกล้าเผชิญความจริงแห่งตัวตนจะช่วยทำให้เราเห็นและอาจค้นพบอิสระจากกรอบกรงขังเดิมๆ ได้ทีละเปลาะ เหมือนการปอกหัวหอม เป็นการเดินทางเข้าสู่ด้านในเพื่อขัดเกลาตัวเอง ให้สิ่งที่ห่อหุ้มอยู่ภายนอกนั้นหลุดออกไปจนเหลือเพียงความเปลือยเปล่าที่จริงแท้ เรียบง่ายและอิสระ

แนวทางการศึกษาเช่นนี้หรือเปล่า ที่สังคมใฝ่สันติภาพและแสวงหาความสุขสมานฉันท์อย่างสังคมไทยพึงปรารถนา ดังที่ได้มีการริเริ่มคิดและจัดกระบวนการเรียนรู้แนวนี้ขึ้นมาบ้างแล้วในหลายๆ ส่วนของสังคม โดยมีการพัฒนาและสร้างสรรค์แนวทางปฏิบัติหรือเครื่องไม้เครื่องมือที่หลากหลาย ผู้ที่สนใจเรียนรู้หรือร่วมคิดร่วมทำก็คงจะได้เข้ามาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันมากขึ้น ซึ่งอาจช่วยต่อเติมมิติของการเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ในเครือข่ายจิตตปัญญาศึกษาของสังคมไทยเติบใหญ่ให้ขยายตัวอย่างมีพลังยิ่งๆ ขึ้นไป"

<อ่านต่อทั้งหมด>

23.1.07

จดหมาย(๑): ดื่มจัด มั่วโลกีย์



"วัชรยานจะเน้นเรื่อง "Lonely Journey" (การเดินทางที่โดดเดี่ยว) คือ เส้นทางสายนี้ ตัวใครตัวมันครับ บางครั้งพฤติกรรมของวัชราจารย์ อาจดูไม่น่าเลื่อมใส (หากตัดสินจากภายนอก) ซึ่งผมว่ามันก็เป็นข้อดีที่ทำให้นักเรียนทุกคนของเขาต้องถามตัวเองให้ดีๆ ว่าจริงๆ แล้วเรามาแสวงหาอะไรกันแน่ คำถามนี้จะนำมาซึ่งแรงดลใจในการค้นหาศักยภาพในตนเอง อย่างที่ไม่ควรไปยึดติดในตัวอาจารย์ หลักการ หรือรูปแบบใดๆ"

<อ่านต่อทั้งหมด>

22.1.07

๔ เดือนหลังรัฐประหาร ๑๙ กันยา

ปาฐกถาโดย สุลักษณ์ ศิวรักษ์
งานสัมมนาวิชาการเรื่อง ' การเมืองไทย ๔ เดือนหลังรัฐประหาร'
จัดโดยสำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน และคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
วันที่ ๑๙ มกราคม ๒๕๕๐



"จิตสิกขาช่วยให้เกิดความเป็นปกติของแต่ละคนและสังคมอย่างไม่อัดเอาเปรียบกัน (ศีล) และการเจริญจิตสิกขาในทางสัมมาสติ ย่อมช่วยลดความเห็นแก่ตัวลง จนเกิดจิตสำนึกในการรับใช้ผู้อื่น สัตว์อื่น ยิ่งกว่าการทะเยอทะยานเพื่อไต่เต้าไปเอาดีทางทรัพย์สิน ยศศักดิ์ อัครฐาน ยิ่งเห็นแก่ตัวน้อย โดยรู้จักโยงหัวใจกับสมองให้สัมพันธ์กัน ย่อมสามารถแลเห็นสภาวะสัตย์ตามความเป็นจริง (ปัญญา) อย่างเป็นองค์รวม อย่างไม่เป็นเสี่ยงๆ และอย่างโยงใยถึงกันและกันในทางอิทัปปัจจยตา จนอาจแลเห็นความอยุติธรรมทางโครงสร้างของสังคม และระบบจักรวรรดินิยมและทุนนิยมในโลกอีกด้วย"

<อ่านทั้งหมด>

20.1.07

basic uncertainty



in the sitting practice of meditation, there is basic space, basic openness. somehow, strangely, there is also basic uncertainty. if your discipline is completely certain and you know what you are doing, then there is no journey.

chogyam trungpa

16.1.07

เผาปิฏกไตรเป็นเชื้อไฟแห่งปัญญา (๒)



"สิ่งสำคัญในกระบวนการเรียนรู้ด้านใน ก็คือ ความรู้จะต้องไม่ถูกยื่นต่อให้กันเหมือนวัตถุ ผู้สอนต้องเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ตรงในหัวใจแห่งคำสอน และสามารถส่งผ่านแรงดลใจนั้นไปยังศิษย์ แรงบันดาลใจนี้เองที่จะนำให้ผู้เรียนได้เข้าสู่กระบวนการฝึกฝนตนเอง บ่มเพาะพลังทางปัญญาที่จะปลุกให้เขาตื่นจากความหลับใหล จากนั้นนักเรียนจึงส่งผ่านกระบวนการนั้นไปยังนักเรียนของเขาต่อไป สายการปฏิบัติจึงถือกำเนิดขึ้น ทำให้ความรู้นั้นเป็นความรู้ที่มีชีวิต และทันกับยุคสมัยและเหตุปัจจัยที่เปลี่ยนไปอยู่เสมอ ความรู้จะต้องไม่ถูกสงวนรักษาราวกับโบราณวัตถุคร่ำครึ ไม่ใช่นิทานหรือเทพนิยายหลอกเด็กที่ไม่สามารถนำมาใช้ได้ในชีวิตจริง ความรู้ที่แท้จะต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานแห่งกระบวนการ เป็นกระบวนการเรียนรู้ที่สดใหม่ ผุดบังเกิดออกจากประสบการณ์ด้านในบนพื้นฐานแห่งการตื่นรู้ในทุกปัจจุบันขณะ และนั่นคือสารัตถะของการดำรงอยู่ที่แท้ในแต่ละย่างก้าวของการเดินทางแห่งชีวิต"

จาก "เผาปิฏกไตรเป็นเชื้อไฟแห่งปัญญา (๒)"

15.1.07

voyage




a ship is safe in harbor - but that's not what ships are for.

John A. Shedd

14.1.07

ธารธรรมสามสาย (The Three Lineages)


บ่มเพาะพลังแห่งการตื่นรู้สู่การปฏิรูปสถาบันทางศาสนา
เรจินัลด์ เรย์ เขียน
วิจักขณ์ พานิช แปลและเรียบเรียง



"ในโครงสร้างสถาบันของพุทธศาสนา องค์กรมีเป้าหมายแรกเริ่มในการสนับสนุนการฝึกฝนของปัจเจกอย่างเต็มที่ โดยหากรากฐานในสายการสืบทอด และสายธารเดิมแท้มีความมั่นคง สายธารอำนาจก็จะทำหน้าที่สำคัญในลักษณะของภาชนะที่ปลอดภัยให้กับธารธรรมทั้งสองได้งอกงามอย่างเต็มศักยภาพ โครงสร้าง การจัดการและการบริหารบนรากฐานทางปัญญา จะช่วยสนับสนุนให้สายการปฏิบัติเติบโต เป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ให้กับผู้ฝึกฝนรุ่นเยาว์ และก่อให้เกิดการสร้างสรรค์ที่สอดคล้องไปกับแก่นพุทธธรรมอันเป็นพลวัตแห่งการตื่นรู้ที่ไม่หยุดนิ่ง แต่ก็แน่นอนว่า พุทธศาสนาก็เหมือนศาสนาอื่นๆ ที่บ่อยครั้งเรามักจะพบว่าอำนาจของสถาบันได้ไปขวางกั้นระหว่างผู้ฝึกฝนกับประสบการณ์ในพุทธสภาวะ ในกรณีนั้นสถาบันหรือสายธารอำนาจก็ไม่ได้ทำหน้าที่ตามที่ควรจะเป็นอีกต่อไป เพราะมันได้ตกไปสู่ความยึดติดในอำนาจ"

<อ่านต่อทั้งหมด>

13.1.07

พิธีกรรม เติมความศักดิ์สิทธิ์และความหมายให้กับชีวิตยุคใหม่


งานชิ้นนี้ของพี่ณัฐ ราวกับภาคขยายความของบทความ "พิธีกรรมธรรมดา" ที่เขียนลงโพสท์ทูเดย์เมื่อเดือนสองเดือนก่อน พี่ณัฐเขียนได้เจ๋งมากเลย ขอบคุณครับพี่

คอลัมน์ จิตวิวัฒน์
โดย ณัฐฬส วังวิญญู สถาบันขวัญเมือง
มติชนรายวัน เสาร์ที่ ๑๓ มกราคม ๒๕๕๐

กิจวัตรประจำวันในฐานะพิธีกรรม พฤติกรรมบางอย่างที่ทำซ้ำๆ แล้วทำให้ชีวิตรู้สึกดี มีแบบแผนหรือทำให้รู้สึกปลอดภัย เช่น การดื่มกาแฟหรือชา อ่านหนังสือพิมพ์ก่อนออกไปทำงาน (มนุษย์ทุกวันนี้มีเวลาอย่างที่ว่าน้อยมาก) การหอมแก้มลูกก่อนนอน การสวัสดีคุณยายก่อนก้าวเท้าเดินออกไปโรงเรียน การเดินออกกำลังกายตอนเช้า การรับประทานอาหารเย็นร่วมกันในครอบครัว การออกไปดูหนังทุกวันเสาร์ การดูข่าวตอนเช้าก่อนอาบน้ำ เป็นต้น กิจวัตรเหล่านี้ แม้จะดูง่ายๆ ไม่ได้มีความหมายในเชิงศาสนาหรือความศักดิ์สิทธิ์ แต่ก็ช่วยให้ชีวิตมีแบบแผนบางอย่างรองรับ ทำให้รู้สึกว่ามีความเป็นปกติอยู่ ซึ่งสำหรับแต่ละคนก็จะแตกต่างกันออกไป

ดังนั้น จะเห็นว่ามนุษย์สามารถสร้างกิจกรรมที่มีลักษณะเป็นพิธีกรรมขึ้นมาเองได้ตลอดเวลา
<อ่านต่อทั้งหมด>