10.12.07

สายสัมพันธ์



ความคิดหรือหลักการที่เรามีในเรื่องของความรักหรือความสัมพันธ์จำเป็นจะต้องถูกทำลายไปด้วยสถานการณ์จริงในชีวิต เพราะเมื่อเราเอาตนเองลงไปนัวเนียกับมัน เราจะตระหนักได้ว่าที่คิดๆไว้ดูจะใช้การอะไรไม่ค่อยได้

เราอาจจะเคยคิดว่าความสัมพันธ์ที่เปี่ยมไปด้วยคุณค่าและความหมาย จะเกิดขึ้นได้แต่กับพวกที่ก้าวหน้าทางจิตวิญญาณสูงๆเท่านั้น แต่จริงๆแล้วมันก็เป็นเช่นนั้นแหละ มันเป็นเรื่องสามัญที่เกิดขึ้นกับทุกคนอยู่แล้ว เราจำเป็นต้องเปลี่ยนมุมมองกันใหม่และเข้าใจว่า สิ่งที่เลวร้ายหาได้เป็นเรื่องของความรัก แต่คือหลักอ้างอิงเชิงหลักการร้อยแปดที่มีอยู่ในหัว การยึดมั่นว่าความสัมพันธ์ควรเป็นอย่างนั้นอย่างนี้เป็นสิ่งที่ทำลายล้างคุณค่าและความหมายของประสบการณ์จริงที่เกิดขึ้นต่อจิตใจเรา จนเราอาจจะเหมาไปว่ารักแท้ไม่มีจริง

แต่คุณไม่ต้องกังวลหรอก เพราะประสบการณ์แห่งความว่างและความไร้ตัวตนจากการภาวนา จะเป็นเชื้อไฟให้กับความรักและสายสัมพันธ์ที่จะค่อยๆแตกยอดขึ้นในจิตใจที่ตื่นรู้ของคุณอย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้

[แต่ต้องอย่ากลัวเจ็บ นะคร้าบบบ...]

เชอเกียม ตรุงปะ รินโปเช

love in guru



Love him... by giving up all weapons and defenses
and being as empty and nonexistent as he was.
Love him... by loving this world moment by moment as he did,
by not resisting, by giving in
to what is most painful, frightening and threatening

and maybe by moving through this life as slowly as he did.

dedication from rr to ctr

9.12.07

vajra confidence



in Vajrayana, there is no "hoo-ha."
everything is upto you.
it is your choice.

if you do it, you just do it.

Chogyam Trunpga

4.12.07

empty vessel



you can’t be a teacher unless you care about people.
you can’t care about people unless you go very very slow.
you can’t go very very slow unless you have nothing you're trying to accomplish.
you can’t have nothing you are trying to accomplish unless you abide in the fundamental freedom simultaneously.


reggie ray

1.12.07

บนเส้นทางแห่งการฝึกตน


โดย วิจักขณ์ พานิช
[รายละเอียดทั้งหมด..คลิ๊กที่นี่]

“บนเส้นทางแห่งการฝึกตน” เป็นพื้นที่สำหรับกัลยาณมิตรในแวดวงจิตตปัญญาศึกษา พุทธศาสนาเพื่อการเปลี่ยนแปลงสังคม และบุคคลทั่วไปที่มีความสนใจในเรื่องของการเรียนรู้ด้านใน ให้ได้มาพบปะพูดคุยและภาวนาร่วมกัน กิจกรรมจะประกอบด้วยการนั่งสมาธิภาวนาและเทคนิคที่หลากหลายเพื่อการเข้าไปสัมผัสพลังแห่งการตื่นรู้ในกาย สลับกับการนำเสนอแนวทางการปฏิบัติและความเข้าใจพื้นฐานโดยวิทยากร และการถามตอบคำถาม พูดคุย และแลกเปลี่ยนประสบการณ์การปฏิบัติของผู้เข้าร่วม ด้วยภาษาในชีวิตประจำวันที่เข้าใจได้ง่าย

บนเส้นทางแห่งการฝึกตนในครั้งแรก ใช้ชื่อตอนว่า ชัมบาลา: การเดินทางของนักรบ โดยจะนำเสนอคุณค่าของการภาวนาที่ฝึกฝนกันในสายการปฏิบัติของเชอเกียม ตรุงปะ และการถอดความเข้าใจจากหนังสือของเชอเกียม ตรุงปะที่ชื่อ “ชัมบาลา: การเดินทางของนักรบ” จากประสบการณ์ตรงของวิทยากร เพื่อให้เกิดความเข้าใจกระบวนการภาวนาในฐานะการเดินทางทางจิตวิญญาณ และการเรียนรู้พื้นฐานของชีวิต

สถานที่ เรือนร้อยฉนำ คลองสาน
ครั้งที่ ๑: ๑๖-๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๑
ครั้งที่ ๒: ๘-๙ มีนาคม ๒๕๕๑
และรีทรีท (เข้าฝึกเข้ม): วันที่ ๒๗-๓๐ มีนาคม ๒๕๕๑ ที่เรือนไทย หมู่บ้านเด็ก จ.กาญจนบุรี

ค่าลงทะเบียน ๘๐๐ บาท (ไม่รวมค่าอาหารและที่พัก)
รีทรีท: ๓๕๐๐ บาท (รวมค่าเดินทาง อาหาร และที่พัก)

สอบถามรายละเอียด หรือสำรองเข้าร่วมอบรมได้ที่
เสมสิกขาลัย สำนักงานรามคำแหง
ฐิติรัตน์ จันทร์เนียม หรือ เจนจิรา โลชา
02-314 7385- 6
semsikkha_ram@yahoo.com

GM


30.11.07

interview with vichak II

another interview about my view on buddhadharma in Modern Thailand.

this will be published on "PostToday" this upcoming sunday.




“ในตัวบริบทของพุทธศาสนาที่จริงแล้วไม่มีอะไรเปลี่ยน มันคือธรรมะของการที่จะทำให้คนตื่นออกมาจากหลักการความคิดหรือความคาดหวังต่างๆ สู่ประสบการณ์ตรงของชีวิตมนุษย์คนหนึ่งที่มีเจ็บ มีปวด มีทุกข์ มีสุข ซึ่งพุทธศาสนาในแง่นี้คือ “ตื่น” ตื่นรู้ที่จะสัมผัสชีวิต แต่ภาษาในตอนนี้ที่ไม่สามารถสื่อถึงความตื่นตรงนั้นได้ เพราะตัวภาษาของพุทธศาสนาเองกลับไปสื่อสารถึงกรอบ กลับไปสื่อสารถึงหมวก กลับไปสื่อสารถึงความเป็นศาสนาที่ไปครอบกระบวนการตรงนั้นไว้อีกที

ผมจึงรู้สึกว่าพุทธศาสนาในโลกสมัยใหม่ทำอย่างไรถึงจะสื่อสารด้วยภาษาที่ง่าย ภาษาที่เข้าถึงชีวิตคนได้มากขึ้นและเข้าถึงคนร่วมสมัยที่ต้องการค้นหาความหมายของการมีชีวิตอยู่หรือการที่จะทำประโยชน์และการเข้าใจตัวเองได้มากกว่า ตรงนี้ไม่ใช่หน้าที่ของผมที่จะมาคิดภาษาแต่เป็นหน้าที่ของผมที่จะทำอย่างไรถึงจะสร้างพื้นที่ให้คนที่สนใจเรื่องการฝึกฝนตัวเองและสามารถมาแลกเปลี่ยนกันได้ด้วยภาษาของคนรุ่นใหม่ที่พูดกันรู้เรื่อง”

<อ่านทั้งหมด>

ตีพิมพ์ครั้งแรกในคอลัมน์ ค.คนทูเดย์ หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์
ฉบับวันอาทิตย์ที่ ๒ ธันวาคม ๒๕๕๐
เสาวณีย์ เกษมวัฒนา สัมภาษณ์

29.11.07

keep in mind



Keep in mind, always, that the path is the goal. The process, how we engage one another and what we learn from this, are most important and more lasting than any objective result. All our thoughts and ideas, all of our hopes and fears are all ultimately dreams that will evaporate like dew under the morning sun. But, of course, our journey and the lessons it brings will be with us always, even after enlightenment.

Remember too, that meditation is our very life, it is our flesh and bones and the blood that runs through our veins. We will best accomplish our work together according to the wishes of the lineage if we continually return to the open ground, the groundless ground of our practice.

reggie ray

first step

what more do i have to say
what else do i have to do
words seem limited
life seems limitless

i

a dharma warrior of the Great East
planting vajra seeds

in people's heart






26-28 November 2007
meditation workshop with Rakluke Family Group
@panasrom
salaya, nakorn prathom, Thailand

26.11.07

อย่าแหย

สวัสดีเพื่อนๆทุกคน

ขอแบ่งปันคำพูดสั้นๆของหลวงพี่ไพศาลในการประชุมจิตวิวัฒน์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ที่ทำเอาวิจักขณ์น้ำตาเอ่อ และกลับมามีศรัทธาในอุดมคติของชีวิตของคนเล็กๆที่คิดฝันทำอะไรบ้าๆ ได้อีกครั้ง


สู้กันต่อไปเถิดเพื่อนผอง...

อ่าน "จากกัลยาณมิตร (๓): พลังแห่งศรัทธา"
........................



ในการปฏิบัติธรรม คุณต้องเผชิญหน้ากับความกลัว เข้าไปในป่า เข้าไปเจอสิ่งเสียดแทงในชีวิตอย่างแรง จนคุณสามารถผ่านมันไปได้ พระอรหันต์หลายท่านได้สูญเสียลูก สูญเสียคนรัก เจ็บปวดทางใจมากมาย จนเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงภายในของเขา

สำหรับถ้าเรามองเรื่องจิตวิวัฒน์ เราต้องมีความเชื่อว่าคนเราเปลี่ยนแปลงได้ อาตมาคิดว่าโอกาสแห่งความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นจากการที่คนเราโดนบีบคั้นอย่างรุนแรง คือ พอมันตั้งจิตไว้ได้ถูก ยิ่งเจอความรุนแรงมากเท่าไหร่ เจออุปสรรคในชีวิต ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเพื่อนมนุษย์มากเท่าไหร่ มันยิ่งเกิดศรัทธาในมนุษย์มากขึ้น มันยิ่งซาบซึ้งศรัทธาในเมตตาและความรักมากขึ้น และสิ่งนั้นจะเข้าไปชนะใจคนรอบข้างได้

วิวัฒนาการทางจิตไม่ใช่การนั่งในห้องสมาธิ หรือเพียงแต่สัมผัสกับฌาณสมาบัติ แต่เราต้องเข้าไปเผชิญกับการเสียดแทงร้อนแรงในประสบการณ์จริงของชีวิต

อีกอย่างก็คือเราต้องพร้อมที่จะเชื่อในความเป็นไปได้จากสภาวะการณ์ที่เป็นไปไม่ได้ (thinking impossible) นี่คือศรัทธา ถ้าเราเชื่อในจิตวิวัฒน์ เราต้องมีศรัทธา กล้าที่จะคิดในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เพราะอะไร...เพราะคนที่เชื่อเรื่องความรุนแรง และความเกลียดชังมีความเชื่อมั่นในวิธีการของเขามาก จริงๆแล้วมันมีไม่กี่คนในโลก แต่เพราะคนพวกนี้มีความเชื่อความศรัทธาอย่างแรง คือ เอาตัวเองเป็นประจักษ์พยาน

จึงเป็นคำถามที่ว่า พวกที่เชื่อเรื่องสันติวิธีหรือเชื่อเรื่องจิตวิวัฒน์ เราจะอยู่แบบสบายๆ แฮ้ปปี้ๆ วันเด้อฟูล บิ้วตี้ฟุล แค่นั้นเหรอพอมั๊ย....ไม่พอ มันต้องมีความเชื่อมั่นที่แรงพอๆกัน แต่แรงในแบบของสันติวิธี และเชื่อว่าในความเป็นไปไม่ได้นั้นมีโอกาสของความเป็นไปได้สูงมาก เพราะฉะนั้นอาตมาจึงไม่เชื่อในการจะปล่อยโลกให้เป็นไปตามยถากรรม เพราะนั่นมันไม่ใช่สิ่งที่จะช่วยทำให้เกิดจิตวิวัฒน์ได้ เราต้องเข้าไปเผชิญด้วยความศรัทธาในการเปลี่ยนแปลงภายในของมนุษย์

อย่างที่ท่านอาจารย์พุทธทาสบอกว่า ในกลางเตาหลอมเหลว มีจุดที่เยือกเย็นอยู่ ในใจของเราพร้อมที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงในขั้นวิกฤติได้ท่ามกลางการบีบคั้นและกดดันอย่างแรง และเราก็เชื่อว่าความงอกงามในใจนั้นสามารถปลุกความหวังให้กับคนเล็กคนน้อยได้

พระไพศาล วิสาโล

(เรียบเรียงจาก ไฟล์บันทึกเสียงการประชุมจิตวิวัฒน์ วันจันทร์ที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๐ ณ มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ)